“ต้องให้โอกาสกี่ครั้ง” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

เราควรจะให้โอกาส สำหรับคนที่จะเริ่มต้นกันใหม่..สักกี่ครั้ง? ตามหลักแล้ว เราก็คงจะต้องดูแลให้โอกาส ก่อนที่จะปิดโอกาสนั้น การจะตัดสินใจลงไป ต้องดูแต่ละกรณีไป เพราะไม่เหมือนกัน แต่ต้องให้โอกาส แม้จะต้องให้โอกาสหลายๆครั้งก็ตาม บางกรณีก็อาจให้เวลาและโอกาสมากหรือน้อยไม่เหมือนกัน บางคนทำอะไรผิดพลาดต่อเรา กว่าเขาจะสำนึกได้หรือคิดได้ จนกลับตัวกลับใจเป็นคนดีนั้น ก็ต้องใช้เวลาและโอกาสมาก หรือบางคนที่ล้มแล้วล้มอีก ถ้าจะให้โอกาสเพียงครั้งเดียวก็คงไม่พอมีเหมือนกันที่พูดว่า   “จะให้โอกาสอีกครั้ง” แต่พอไม่ได้ตามกำหนด เขาก็ปิดโอกาส ไม่ยอมให้โอกาสอีกเลย อย่างนี้ก็มีให้เห็นบ่อย การที่จะให้โอกาสใคร เพื่อแก้ไขในความพลั้งผิดใดๆ ถ้าหากเราจะเปิดกว้าง โดยไม่ได้กำหนดเวลา ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ตรงกันข้ามกลับเป็นผลดีต่อคนที่เขาได้รับโอกาสจากเราด้วยซ้ำ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องถูกกดดันในเรื่องกำหนดเวลา รวมทั้งเขาจะได้มีสมาธิและความตั้งใจในการใช้โอกาสที่ได้รับอย่างคุ้มค่า…

Continue reading

“ทำใจให้เบิกบาน” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

เรื่องยุ่งๆวุ่นวายที่เป็นปัญหากระทบจิตใจ หรือความรู้สึกของเราอยู่ทุกวันนั้น ความจริงแล้ว สาเหตุมันขึ้นอยู่ที่ตัวเรานั้นแหละ ถ้าเราไม่ไปพวงสนใจ  มันจะเข้ามารบกวนจิตใจของเรายาก เพราะถ้าเราไม่เปิดประตูหรือปิดประตู เรื่องยุ่งๆทั้งหลาย ก็ไม่สามารถเข้ามาทำให้รกสมองหรือจิตใจของเราได้อยู่แล้ว เช่นถ้าใครมาพูดกล่าวร้ายต่อเรา แล้วเราก็ทำเป็นเอาหูทวนลมไม่สนใจ ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในทางลบ ต้องทำใจให้เบิกบานเอาไว้ก่อน คิดเหมือนที่บางคนคิด “อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด” จะไปห้ามมันไม่ได้ เราอย่าไปให้ความสำคัญ หรือตีโพยตีพายเกินกว่าเหตุ ต้องทำใจให้สบายเข้าไว้ แล้วค่อยคิดหาทางแก้ไข ก็คงจะมีคำถามตามมาอีกว่า แล้วเราจะทำอย่างไร ที่จะไม่ทำให้จิตใจอ่อนไหว กับปัญหาและอุปสรรคทั้งหลาย  เพราะธรรมชาติของคน เวลามีปัญหาเข้ามากระทบทั้งๆที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหนักหรือเบา…

Continue reading

“ทำให้ชีวิตช้าลง” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

ผมได้หนังสือที่เขียนจากประสบการณ์ชีวิตของสุภาพสตรีคนหนึ่ง ที่เคยจริงจังกับการดำเนินชีวิต ด้วยความรวดเร็วว่องไว และเร่งรัดประหยัดเวลา ซึ่งเธอคิดว่า เป็นวิธีที่ถูกต้องและเป็นสูตรสำเร็จในชีวิต แต่พอเธอเริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เธอก็ได้พบกับความจริงอีกด้านหนึ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน นั่นก็คือ การทำชีวิตให้ช้าลงต่างหากที่จะเป็นสูตรสำเร็จและมีความสุขในชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าความจริงจังและรวดเร็วที่เธอเคยทำไม่ใช่สิ่งผิดที่จะนำมาใช้ได้ แต่คนที่จะทำได้ก็ต้องเป็นคนที่สามารถ ควบคุมความจริงจัง และความรวดเร็วให้ได้ เพราะมีความเสี่ยงในหลายปัจจัย ต่อความผิดพลาดมากมาย แต่วันนี้สุภาพสตรีผู้นี้ ได้พบว่า การทำชีวิตให้ช้าลง ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างสบายๆนั้น กลับช่วยให้ชีวิตมีความสุขได้มากกว่า เพราะเมื่อชีวิตช้าลง โอกาสที่เราจะปรับตัวปรับใจไปกับการดิ้นรนสู้ชีวิต อย่างเอาจริงเอาจังตลอดเวลานั้น ทำให้เราได้มีเวลาพักผ่อนคลายความวิตกกังวล ตลอดจนความเครียดไปได้มาก แต่ถ้าเราต้องดิ้นรนอยู่ตลอด เราจะไม่มีเวลาที่จะพักผ่อนหรือปรับตัวได้เลย ผมเห็นด้วยกับการที่เราจะต้องทำชีวิตให้ช้าลง ไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป…

Continue reading

“ความพยายามอยู่ที่ไหน… ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

มีหนูสองตัว ขณะกำลังเพลินอยู่กับการหาอาหารในยามค่ำคืนวันหนึ่ง หนูทั้ง 2 ก็ได้พลัดตกลงไปในถังครีมที่เขาใช้ทำเนยแข็ง ซึ่งถึงดังกล่าวมีครีมอยู่เต็มถัง หนูตัวหนึ่งไม่พยายามช่วยตัวเองเลย แสดงอาการตกใจ หมดอาลัยตายอยาก แล้วก็ปล่อยตัวเองให้จมลงไปสำลักครีมจนตาย ส่วนหนูอีกตัวหนึ่งไม่ยอมท้อต่อชะตากรรมของตน มันพยายามดิ้นรนหาทางช่วยตัวเอง เพื่อความอยู่รอด มันได้ใช้ทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง กระทุ้งน้ำครีมสีขาวขุ่นนั้น เพื่อพยุงตัวเองให้พ้นจากการจมน้ำครีมด้วยความพยายามอย่างสุดกำลัง พอเหนื่อยมันก็พักด้วยการพยุงตัวให้ลอยอยู่บนน้ำครีมนั้น พอมีแรงก็เริ่มตะเกียกตะกายพยุงตัวให้ลอยอยู่บนน้ำครีมต่อไป มันทำอย่างนั้นโดยไม่ยอมแพ้ ทำอยู่นับชั่วโมง จนกระทั่งน้ำที่เป็นครีมอยู่เริ่มแข็งเป็นก้อน แล้วก็กลายเป็นเนยในที่สุด สาเหตุที่เนยแข็งนั้นก็เพราะหนูตัวนั้นใช้เท้าปั่นจนครีมได้กลายเป็นเนยนั่นเอง ตอนนี้หนูตัวนั้นก็ยืนเหยียบอยู่บนก้อนเนยแข็ง แล้วมันก็ก้าวออกจากถังนั้นได้อย่างปลอดภัย อุทาหรณ์จากเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายอย่างไรก็ตาม ถ้าเราไม่ยอมแพ้ สวมหัวใจสู้ ด้วยความพยายามไม่ย่อท้อต่ออันตรายที่กำลังเกิดกับเราแล้ว…

Continue reading

“ความรักมั่นคงของพระเจ้า” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

ในพระธรรมสดุดี 145:8-9 กล่าวไว้ดังนี้ “พระเจ้าทรงพระเมตตากรุณา ทรงกริ้วช้า และมีความรักมั่นคงอย่างอุดม พระเจ้าทรงดีต่อทุกคน และความรักเอ็นดูของพระองค์ มีอยู่เหนือพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ ” ทุกครั้งที่พูดถึงความรักมั่นคงของพระเจ้า ทำให้นึกถึงเพลงที่เคยร้องกันอยู่เสมอๆ ร้องกันจนขึ้นใจ เนื้อเพลงมีดังนี้ “ ความรักมั่นคงของพระเจ้าไม่เคยยั่งหยุด พระเมตตาคุณหลั่งลงมาอยู่สมอ.. ใหม่ทุกเช้า เร้าในดวงใจ ซาบซึ้งทุกๆวันใหม่ พระองค์ทรงความเที่ยงตรงยิ่งนัก พระองค์ทรงความเที่ยงตรง”   ร้องกันจนเพลงบทนี้กลายเป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในชีวิตจิตใจไม่มีลบเลือน  เมื่อเราพูดถึง “พระเจ้า” เราก็นึกถึง “ความรัก” เป็นสิ่งแรก เพราะนิยามของพระเจ้าก็คือ “…

Continue reading