ยอห์น 19:23-24ก – ครั้นพวกทหารตรึงพระเยซูไว้ที่กางเขนแล้ว เขาทั้งหลายก็เอาฉลองพระองค์มาแบ่งออกเป็นสี่ส่วนให้ทหารคนละส่วน เว้นแต่ฉลองพระองค์ชั้นใน ฉลองพระองค์ชั้นในนั้นไม่มีตะเข็บ ทอตั้งแต่บนตลอดล่าง เหตุฉะนั้นเขาจึงปรึกษากันว่า “เราอย่าฉีกแบ่งกันเลย แต่ให้เราจับฉลากกันจะได้รู้ว่าใครจะได้” ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระธรรมที่ว่า “เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาก็แบ่งกัน ส่วนเสื้อของข้าพระองค์ เขาจับฉลากกัน”
คุณอาจคิดว่าชะตากรรมของเสื้อผ้าของพระเยซูไม่ใช่สิ่งสำคัญ คนตายจะต้องการเสื้อผ้าไว้เพื่ออะไร และกระนั้น ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าพระเยซูทรงคิดอะไร ในขณะที่ทรงมองลงมาจากกางเขน เครื่องนุ่งห่มเหล่านั้นเป็นเสื้อผ้าธรรมดาของบุรุษคนหนึ่งที่มาจากกาลิลีหรือยูเดีย ไม่ว่าจะเป็นฉลองพระองค์ เสื้อคลุม รองเท้าแตะ เข็มขัด หรือบางทีอาจเป็นผ้าคลุมศีรษะก็ตาม สิ่งเหล่านี้คงถูกตัดเย็บโดยครอบครัวของพระองค์หรืออาจได้รับมอบเป็นของขวัญ คนที่ตัดเย็บสิ่งเหล่านี้ต้องทำงานหนักหลายวัน การเห็นพวกทหารปฏิบัติต่อเสื้อผ้าด้วยวิธีนี้คงทำให้รู้สึกเจ็บปวด
สำหรับพระเยซูสิ่งเหล่านี้คือของขวัญแห่งความรัก สำหรับพวกทหารล่ะคืออะไร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะนำไปขายหรือแจกจ่ายให้กับคนรับใช้ บางทีอาจเป็นเพียงผ้าขี้ริ้ว ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทะนุถนอมไว้
เพื่อเห็นแก่เรา พระเยซูทรงยอมสละสิ่งเหล่านั้น เพื่อพระองค์จะทรงสามารถจัดเตรียมของขวัญแห่งความรักให้กับเราผู้เป็นประชากรที่พระเจ้าทรงรักซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะพระเยซูจึงไม่มีใครในพวกเราที่ต้องอับอายที่จะยืนอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ของพระเจ้า โดยทางการทนทุกข์ การสิ้นพระชนม์ และการคืนพระชนม์ของพระองค์ พระเยซูทรงปกคลุมความบาปและความอับอายของเราไว้ ที่จริงเปาโลกล่าวไว้ว่าพระเยซูเองได้ทรงเป็นเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ “เพราะเหตุว่าคนที่รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์แล้ว ก็จะสวมชีวิตพระคริสต์”(กาลาเทีย 3:27)
เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงปกคลุมข้าพระองค์เอาไว้ด้วยพระองค์เอง อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
• ตอนไหนที่คุณพิถีพิถันอย่างมากในการเตรียมของขวัญให้กับคนที่คุณรัก
• เหตุใดเราจึงใช้เสื้อคลุมสีขาวเป็นสัญลักษณ์สำหรับการอภัยโทษในพิธีศีลบัพติศมา
• ตอนนี้เมื่อพระเยซูทรงทำให้พระองค์เองเป็นเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่แล้ว งานเลี้ยงฉลองใดที่คุณพร้อมที่จะเข้าร่วม (ดูมัทธิว 22:1-14; วิวรณ์ 19:6-9)
© : Lutheran Hour Ministries
