มัทธิว 27:39ก, 40-44 – ฝ่ายคนทั้งปวงที่เดินผ่านไปมานั้น ก็กล่าวเหยียดหยามพระองค์ สั่นศีรษะเยาะเย้ย ว่า “เจ้าผู้จะทำลายพระวิหาร และสร้างขึ้นในสามวันน่ะ จงช่วยตัวเองให้รอด ถ้าเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า จงลงมาจากกางเขนเถิด” พวกมหาปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์และพวกผู้ใหญ่ ก็เยาะเย้ยพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้ เขาเป็นกษัตริย์ของชาติอิสราเอล ให้เขาลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี้เถิด เราจะได้เชื่อถือบ้าง เขาไว้ใจในพระเจ้า ถ้าพระองค์พอพระทัยในเขาก็ให้ทรงช่วยเขาเดี๋ยวนี้เถิด ด้วยเขาได้กล่าวว่าเขาเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ถึงโจรที่ถูกตรึงไว้กับพระองค์ ก็ยังกล่าวคำหยาบช้าต่อพระองค์เหมือนกัน
สังเกตคำพูดที่พวกศัตรูของพระเยซูใช้ เขาพูดว่า “ถ้าเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า” ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำพูดเดียวกันกับที่มารใช้เมื่อมันกำลังทดลองพระเยซูในตอนเริ่มต้นพันธกิจของพระองค์ และในทั้งสองกรณีนี้มีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือ เพื่อผลักดันให้พระเยซูทรงปกป้องอัตลักษณ์ของพระองค์ด้วยการทำสิ่งที่พระองค์ไม่ทรงควรทำ
และคนเหล่านั้นกำลังกดดันให้พระองค์ทรงทำอะไร เขากำลังทดลองให้พระองค์ทรงละทิ้งพันธกิจของพระองค์ เพื่อกดดันให้พระองค์ทรงหยุดกระทำการที่พระเจ้าพระบิดาทรงส่งให้พระองค์มาทำ เพื่อกดดันให้พระองค์ทรงหยุดช่วยเราให้รอดซึ่งเราเป็นคนที่ต้องการพระองค์มาก และเพื่อกดดันให้พระองค์ทรงช่วยตัวเองให้รอดแทน คนเหล่านั้นเสนอด้วยซ้ำว่าเขาจะเชื่อในพระองค์ถ้าพระองค์ทรงหยุดทำสิ่งเหล่านั้น
แต่พระองค์ทรงรักเรามากเกินกว่าที่จะตกหลุมพรางนั้น ในอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงพระองค์จะทรงเสร็จสิ้นการทนทุกข์ของพระองค์ และจะทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อทรงช่วยกู้เราให้รอด การสิ้นพระชนม์ของพระองค์จะทรงทำลายอำนาจของความบาปและความตายที่ครอบงำเหนือเรา และเมื่อพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์จะทรงเป็นแหล่งแห่งชีวิตนิรันดร์สำหรับเราทุกคนตลอดไป ทุกคนที่เชื่อวางใจในพระองค์
เราอธิษฐาน: พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
• ตอนไหนบ้างที่คุณมีปัญหากับการอยู่แบบเงียบๆ
• จะเกิดอะไรขึ้นกับเราถ้าพระเยซูทรงฟังเสียงคนเหล่านั้น
• ตอนนี้จะเกิดขึ้นอะไรขึ้นกับเรา
© : Lutheran Hour Ministries
